เมืองพัทยาขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาและพุทธศาสนิกชนผู้ถือศีลกินเจร่วมอิ่มบุญ..อิ่มใจไปกับเทศกาลกินเจเมืองพัทยาประจำปี 2551 แต่งกายด้วยชุดขาวร่วมงาน “มหากุศล อิ่มบุญ อิ่มใจ” เทศกาลกินเจเมืองพัทยา ประจำปี 2551 28 กันยายน – 8 ตุลาคมนี้
โดยภายในงานแถลงข่าวเริ่มด้วยการแสดงระบำชุดนางฟ้าประทานพร จากอัลคาซาร์โชว์ ต่อด้วยระบำชุดนางฟ้าขอพรจากเทพ จากนักเรียนโรงเรียนสว่างบริบูรณ์ จากนั้นเป็นการแถลงข่าวโดยนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายนิติ คงกรุต ผอ.ททท.สำนักงานพัทยา นายประสิทธิ์ ทองทิพย์เจริญ รองประธานมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน และนายสมศักดิ์ พึ่งเนียม นายกสมาคมเชฟพัทยา ซี่งได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานและเชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างกุศลกับเทศกาลกินเจเมืองพัทยา ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 8 ตุลาคม2551เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสืบสานเทศกาลกินเจ และไฮไลท์ของงานจะมีการปรุง “ผัดหมี่จักรพรรดิ” และ “ท้อสวรรค์” เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงานเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเป็นการแสดงเชิดสิงโต จากมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เป็นการปิดท้ายงานแถลงข่าว
สำหรับขบวนแห่อัญเชิญ “กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว” และ “พระโพธิสัตว์” จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2551 เวลา 12.29 น.จะเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณท่าเทียบเรือพัทยาใต้ (แหลมบาลีฮาย) ผ่านถนนวอล์คกิ้งสตรีท ถึงสามแยกป้อมตำรวจ แยกริ้วขบวนออกเป็น 2 สาย
สายที่ 1 เคลื่อนไปตามถนนเลียบชายหาด ถึงสามแยกพัทยากลาง เลี้ยวขวาเข้าถนนพัทยากลางไปบรรจบกับขบวนที่ 2 ที่สี่แยกพัทยากลาง (แยกอาลีเมาะ)
สายที่ 2 เลี้ยวขวาเข้าถนนพัทยาใต้ ถึงสี่แยก วัดชัยมงคล เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัทยาสาย 2 ตรงไปถึงไมค์ช๊อปปิ้งมอลล์ หยุดพักขบวนให้มังกรแสดง เมื่อแสดงเสร็จแล้ว ก็เคลื่อนขบวนต่อจนถึงแยกพัทยากลาง เพื่อไปบรรจบกับขบวนที่ 1 รวมเป็นขบวนเดียว และเคลื่อนไปจนถึงสี่แยกสาย 3 ตรงองค์การโทรศัพท์ (TOT) เป็นอันสิ้นสุดขบวนแห่ที่พัทยากลางและพัทยาใต้ จากนั้นก็ขึ้นรถบัสไปลงที่วัดสว่างฟ้าฯ เพื่อตั้งขบวนใหม่แห่ไปสวนสาธารณะลานโพธิ์ เพื่อทำพิธีอัญเชิญ “กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว” และ “พระโพธิสัตว์” มาสถิต ณ โรงเจ และในเวลา 16.30 น.มีพิธีเปิดงานเทศกาลกินเจเมืองพัทยา 2551 ณ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน (โรงเจนาเกลือ)จากนั้นก็จะนำเส้นหมี่พร้อมเครื่องปรุงที่ปลุกเสกมาปรุง “ผัดหมี่จักรพรรดิ” และ “ท้อสวรรค์” ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการจัดงาน เพื่อแจกให้กับประชาชนที่มาร่วมพิธี ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานถึง 5,500 คน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่านที่เข้าร่วมงานได้ อิ่มบุญ อิ่มใจ ในเทศกาลกินเจ

อา 28 ก.ย. 51 |
เวลา 09.19 น. อันเชิญเทพยดาฟ้าดิน ( เซ็งทีตี้ )
เวลา 12.29 น. เคลื่อนขบวนแห่ออกจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้แห่ไปยังชายหาดบริเวณลานโพธิ์ เพื่อทำพิธีอัญเชิญ “กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว” และ “พระโพธิสัตว์” มาสถิตย์ ณ โรงเจ มีพิธีเปิดงานเทศกาลกินเจปี 51 และแจก “ผัดหมี่จักรพรรดิ์” และ “ท้อสวรรค์” ค่ำคณะเก็งจูสวดมนต์ เดินธูป |
จ 29 ก.ย. 51 |
เก้าว่วยชิวอิก เวลา 06.09 น. ทำพิธีอัญเชิญ “กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว” ประทับทรงที่หน้าโรงเจ เพื่อประทานพร แด่พุทธศาสนิกชนผู้ใจบุญใจกุศลทั้งหลาย ค่ำคณะเก็งจูสวดมนต์สวดมนต์ เดินธูป ตามปกติ |
อ 30 ก.ย. 51 |
ชิวหยี ค่ำคณะเก็งจูสวดมนต์สวดมนต์ เดินธูป ตามปกติ |
พ 1 ต.ค. 51 |
ชิวซา เป็นวัน เจคี้ยิก มีพิธีไหว้ตอนเช้า กลางคืนเวลา 19.19 น. ทำพิธีสวดมนต์สะเดาะเคราะห์ต่ออายุ เป็นวันไป๊เต๊า เดินธูปใหญ่ |
พฤ 2 ต.ค. 51 |
ชิวสี่ เวลา 14.19 น. ทำพีธีปล่อยสัตว์เพื่อสะเดาะเคราะห์ เป็นวันปั้งแซ |
ศ 3 ต.ค. 51 |
ชิวโหงว ค่ำคณะเก็งจูสวดมนต์สวดมนต์ เดินธูป ตามปกติ |
ส 4 ต.ค. 51 |
ชิวลัก เป็นวันเจคี่ยิก มีพิธีไหว้ตอนเช้า กลางคืนเวลา 19.19 น. ทำพิธีสวดมนต์สะเดาะเคราะห์ต่ออายุ เป็นวันไป๊เต๊า เดินธูปใหญ่ |
อา 5 ต.ค. 51 |
ชิวฉิก เวลา 16.09 น. เคลื่อนขบวนแห่ออกจากโรงเจ เพื่อทำพิธีลอยกระทง |
จ 6 ต.ค. 51 |
ชิวโป้ย เวลา 12.29 น. ทำพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณผู้ไร้ญาติ ( ไป้ฮ่อเฮียตี๋ ) ที่หน้าโรงเจ และนำเสื้อผ้า เครื่องกระดาษเผาอุทิศให้กับ วิญญาญผู้ไร้ญาติ และผู้ล่วงลับ เวลาบ่าย 15.29 น. ทำพิธีทิ้งกระจาด ( แจกทาน ) ค่ำคณะเก็งจูสวดมนต์สวดมนต์ เดินธูป กลางคืนเวลา 20.39 น. คณะกรรมการทำพิธีเผาเครื่องทรง ถวาย “ท่านเง็กเซียนฮ่องเต้” และ “เทพยดาฟ้าดิน” รวม 8 ชุด |
อ 7 ต.ค. 51 |
ชิวเก้า เป็นวันเจคี่ยิก มีพิธีไหว้ตอนเช้า
บ่ายเวลา 14.29 น. คณะกรรมการทำพิธีเกาเพ้า เผาเครื่องทรงถวาย “กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว”
กลางคืนเวลา 20.49 น. เซี่ยทีตี้จูฮุก ทำพิธีขอลา และขอบคุณ “เทพพยาดาฟ้าดิน” และ “กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว” เสร็จแล้วจะมีการประมูล ตะเกียง ต้นไผ่ และกระถางธูป “เทพยดาฟ้าดิน” |
พ 8 ต.ค. 51 |
ชิวจั๊บ ชั้งเก่ เวลา 06.19 น. เคลื่อนขบวนออกจากหน้าโรงเจ ไปยังชายหาดหน้าต้นโพธิ์ ทำพิธีส่ง “กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว” และ “พระโพธิสัตว์” หลังจากนั้นกลับมาที่โรงเจดื่มน้ำมนต์เพื่อเป็นศิริมงคล และ หลังเที่ยงออกเจ ( คุยชอ ) |
วัตถุประสงค์ในการกินเจ
ผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
- กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ
- กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้นซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา
- กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นองเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเราสั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อผู้หยั่งรู้เรื่องกฎแห่งกรรมนี้จึงหยุดกินหยุดฆ่าหันมารับประทานอาหารเจ ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโตได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น
หลักธรรมในการกินเจ
ในทัศนะของคนกินเจ การกินที่ทำให้ชีวิตผู้อื่นต้องเดือดร้อนล้มตายนั้น “มันมากเกินไป” ทั้งๆ ที่มนุษย์กินแต่อาหารพืชผักก็สามรถมีชีวิตอยู่ได้
การกินเจตั้งมั่นอยู่บนหลักธรรมสำคัญ 2 ประการคือ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเองและดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น กล่าวคือ
- ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน
- ไม่เอาเลือดของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเลือดของตน
- ไม่เอาเนื้อของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเนื้อของตน
การรับประทานสิ่งใดก็ตามที่ทำลายสุขภาพร่างกายของตนให้ทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าได้พิสูจน์ยืนยันว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ที่ถูกฆ่าตายเต็มไปด้วยพิษภัยมากมาย
ดังนั้นการกินเจจึงไม่ใช่เพื่อให้เกิดผลดีต่อจิตใจเท่านั้นแต่ยังครอบคลุมไปถึงการมีสุขภาพพลานามัยที่ดีอีกด้วย ร่างกายและจิตใจเป็นของคู่กันมีความสัมพันธ์ส่งผลถึงกันคนเราย่อมไม่อาจจะรู้สึกเบิกบานสดชื่นร่าเริงได้ในขณะที่ร่างกายเจ็บป่วยทรุดโทรมย่ำแย่